ประเทศไทย

9 กันยายน 2568, สำนัก Chosun Ilbo

: ภูมิคุ้มกันบกพร่องไม่สามารถป้องกันโรคร้ายแรงได้
สารสกัดจาก Angelica, Cnidium officinalis และ Paeonia lactiflora
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
จดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาและรัสเซียแล้ว


▲ ภูมิคุ้มกันเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ปกป้องร่างกายของเราตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอายุมากขึ้น กิจกรรมของเซลล์ภูมิคุ้มกันจะลดลงและอวัยวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง ในกรณีนี้ สารสกัดผสม Hemohim Angelica และ Paeonia lactiflora สามารถช่วยได้ /Shutterstock

อายุยืนเป็นความปรารถนาของมนุษย์มาช้านาน อย่างไรก็ตาม การมีอายุยืนยาวเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ
การมีอายุยืนยาวที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ปราศจากโรคภัยและความพิการ ถือเป็นพรอันประเสริฐ
ปัจจุบันอายุขัยใกล้จะถึง 100 ปีแล้ว แต่โรคต่างๆ เช่น มะเร็ง การติดเชื้อ และโรคภูมิต้านตนเองยังคงเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเรา
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ "ความชราของระบบภูมิคุ้มกัน" ซึ่งมักมองไม่เห็น

ภูมิคุ้มกันเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ปกป้องร่างกายของเราตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอายุมากขึ้น กิจกรรมของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น เซลล์ NK และเซลล์ T จะลดลง และระบบภูมิคุ้มกันจะฝ่อตัวลง ทำให้สภาพแวดล้อมภายในร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้น อันที่จริง ร่างกายสร้างเซลล์มะเร็งประมาณ 5,000 เซลล์ในแต่ละวัน
แต่เซลล์ภูมิคุ้มกันจะกำจัดเซลล์เหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนาเป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตาม เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ระบบเฝ้าระวังและป้องกันนี้จะล้มเหลว ทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เพิ่มขึ้นอย่างมาก

◇การผสมผสานยาสมุนไพรแผนโบราณทางวิทยาศาสตร์… ได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพในการทดสอบในมนุษย์

สถาบันวิจัยพลังงานปรมาณูแห่งเกาหลีได้พัฒนา 'สารสกัดผสมรากแองเจลิกาเฮโมฮิม' สำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหลังการฉายรังสีรักษามะเร็ง
สารสกัดผสมรากแองเจลิกา HemoHim ผลิตขึ้นจากการผสมผสานยาสมุนไพรแผนโบราณอย่างชาญฉลาด เช่น รากแองเจลิกา, นีเดียม ออฟฟิซินาลิส และปาเอโอเนีย จาโปนิกา มีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ 'การสร้างเม็ดเลือด', 'ภูมิคุ้มกัน' และ 'การปรับสมดุล'
ในปี พ.ศ. 2549 ได้รับการรับรองเป็นวัตถุดิบเสริมภูมิคุ้มกันที่ได้รับการรับรองเป็นรายบุคคลจากกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา
และในปี พ.ศ. 2566 ยังได้รับการรับรองด้าน 'การบรรเทาอาการเหนื่อยล้า' อีกด้วย ทำให้เป็นวัตถุดิบที่มีสองหน้าที่
ปัจจุบัน วัตถุดิบนี้ได้รับการพิสูจน์ในการทดลองแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสียหายต่อกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
และฟื้นฟูจากอาการเหนื่อยล้า ผ่านการวิจัยติดตามผลโดยทีมพัฒนาวัตถุดิบของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การอาหาร ภายใต้ Kolmar BNH
ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับ SCIE รวมถึงวารสารวิชาการนานาชาติ Pharmaceutical Biology และได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการ

นอกจากนี้ จากการทดสอบการใช้งานในมนุษย์ ซึ่งดำเนินการร่วมกันโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลและ Kolmar BNH กลุ่มที่บริโภควัตถุดิบ HemoHIM แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่สำคัญในตัวชี้วัดสำคัญ เช่น มาตราวัดความเหนื่อยล้า (FSS) และดัชนีความเหนื่อยล้าหลายมิติ (MFI) การศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Phytomedicine Plus ในปี 2565 และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้รับการจดสิทธิบัตรในเกาหลี สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย

◇ เฮโมฮิม แองเจลิกา กิกัส นากายามะ ครองอันดับหนึ่งในการส่งออกอาหารเพื่อสุขภาพ

จากรายงาน "ผลการดำเนินงานด้านการผลิตอาหารประจำปี 2564" ของกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา สารสกัดผสมเฮโมฮิม แองเจลิกา กิกัส นากายามะ ถูกส่งออกคิดเป็นมูลค่า 60.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 69.2 พันล้านวอน) ต่อปี แซงหน้าโสมแดงที่ส่งออกได้เพียง 48.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขึ้นแท่นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพภายในประเทศอันดับหนึ่ง ปัจจุบันมีการส่งออกไปยังกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของการผสมผสานระหว่าง K-bio และการแพทย์แผนตะวันออก
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า "การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความเหนื่อยล้าเป็นความต้องการสากลไม่ว่าจะอยู่ทางตะวันออกหรือตะวันตก" และ
"Hemohim Angelica gigas Nakayama Mixed Extract คือวัตถุดิบรุ่นใหม่ที่จะเป็นตัวแทนของเกาหลีในตลาดการดูแลสุขภาพระดับโลก"

จากองค์ประกอบนี้ Kolmar BNH จึงยังคงดำเนินการวิจัยเชิงหน้าที่เพิ่มเติม เช่น การปรับปรุงการทำงานของสมอง การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
และกำลังขยายขอบเขตประสิทธิภาพผ่านการจดทะเบียนสิทธิบัตรและการตีพิมพ์งานวิจัยต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้ว "HemoHim Angelica Extract" ไม่ได้เป็นเพียงส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังได้รับความสนใจในฐานะโซลูชันที่สามารถรับมือกับความท้าทายทั้งด้านสุขภาพภูมิคุ้มกันและการจัดการความเหนื่อยล้าที่สังคมผู้สูงอายุต้องเผชิญไปพร้อมๆ กัน