ATOMY CHANNEL ประเทศไทย

translation
Home

บริษัทที่พนักงานทุกคนใฝ่ฝัน

จำนวนผู้เข้าชม 1,220 วันที่
พิมพ์
2022. 03. 04
Next Economy


บริษัทที่พนักงานทุกคนใฝ่ฝัน
อะโทมี่ ได้รับรางวัลบริษัทที่น่าทำงานถึง 2 ปีซ้อน




คนทำงานไม่ว่าใครต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะทำงานในบริษัทที่ตัวเองต้องการ ซึ่งอะโทมี่ (ประธานปาร์ค ฮันกิล) ได้รับรางวัล ‘บริษัทที่น่าทำงาน
ในเกาหลี’ ถึง 2 ปีซ้อน และได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่าบริษัทอยู่เพื่อสร้างความสุขให้กับสมาชิกในองค์กร ประธานปาร์ค ฮันกิลของอะโทมี่ได้บอก
กับพนักงานบ่อยครั้งว่า “จงใช้ประโยชน์จากบริษัทให้ตัวเองมีความสุขขึ้น” การที่บริษัทอะโทมี่ให้ความสำคัญกับพนักงานแบบนี้ น่าจะเป็น
จุดใหญ่ที่ทำให้อะโทมี่เติบโตกลายเป็นธุรกิจที่ทำยอดขายโกลบอลมูลค่า 2.2 ล้านล้านวอน (66,000 ล้านบาท) ได้ในปีที่แล้ว

ปีที่แล้ว อะโทมี่ได้รับรางวัล ‘บริษัทที่น่าทำงาน 100 แห่งในเกาหลีใต้’ ของ ‘GPTW (Great Place to Work Korea)’ โดยได้รับรางวัล
ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อนจากปี 2020 รวมถึงท่านประธานที่ได้รับ ‘รางวัล 24 CEO ที่น่าเคารพมากที่สุดในเกาหลี’ 2 ปีซ้อนเช่นกัน

GPTW เป็นหน่วยงานที่ปรึกษาด้านการวิจัยและการบริหารจัดการที่น่าเชื่อถือ​ โดยทำงานร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป อเมริกากลาง
และใต้ ญี่ปุ่น จีนและอีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก GPTW KOREA Workplaces Awards เป็นนโยบายที่จะมอบรางวัลจากการคัดเลือกธุรกิจ
ที่บริหารงานอย่างน่าเชื่อถือ โดยสร้างวัฒนธรรมในองค์กรที่น่าทำงาน ให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสนุกสนาน ทำการประเมินโดยใช้
การสำรวจแบบสอบถามจากพนักงาน ถึงดัชนีความน่าพึงพอใจของสมาชิกในองค์กรที่มีต่อบริษัทหลักๆ 5 หมวดหมู่ 15 ข้อ หากในมุมมอง
ของสมาชิกในองค์กรมองว่า ความน่าเชื่อถือของนายจ้างหรือผู้บริหาร (Trust), ความภาคภูมิใจในงานที่รับผิดชอบ (Pride) และความสนุก
ในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน (Fun) อยู่ในระดับสูง จะหมายความว่าที่ทำงานนั้นเป็นที่ทำงานที่ดีมากต่อการทำงานอย่างมุ่งมั่น

อะโทมี่ได้รับคะแนนสูงโดยเฉพาะด้านความน่าเชื่อถือของผู้บริหาร อ้างอิงจาก GPTW “ดัชนีการบริหารจัดการที่น่าเชื่อถือนั้น มีความหมายว่า
ยิ่งพนักงานมีความเชื่อถือผู้บริหารสูงมากเท่าไหร่ ก็หมายถึงว่าพนักงานภูมิใจในบริษัทมากเท่านั้น” ทางผู้จัดได้อธิบายว่า “เนื่องจากเป็น
การประเมินจากพนักงานในองค์กรเอง ยิ่งทำให้ผลที่ออกมาน่าเชื่อถือและแม่นยำอีกด้วย”

การประเมินเกี่ยวกับอะโทมี่ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว อะโทมี่ก็ยังได้รับรางวัล ‘บริษัทที่น่าทำงานในเอเชีย อันดับ 5’ อีกด้วย
สรุปคืออะโทมี่ได้รับเลือกเป็นอันดับ 5 ของบริษัทที่น่าทำงานด้วยในเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของประเทศเกาหลี

วัฒนธรรมองค์กรที่ ‘ให้อำนาจและสิทธิ โดยไม่ถาม’
วัฒนธรรรมการทำงานอย่างเท่าเทียม ‘เน้นการสื่อสาร’ และดึงความสามารถของแต่ละคนออกมาให้มากที่สุด


นอกจากภายนอกองค์กรแล้ว อะโทมี่ยังได้รับการประเมินจากพนักงานในองค์กรให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานอีกด้วย สิ่งนี้เป็นไปได้เพราะวัฒนธรรม
องค์กรของอะโทมี่นั่นเอง เนื่องจากอะโทมี่ได้ทำลายมาตรฐานและค่านิยมเดิมที่ธุรกิจอื่นๆ ต่างก็คิดกัน โดยแก่นหลักสำคัญ คือ วัฒนธรรม
‘การให้อำนาจและสิทธิ โดยไม่ถาม’ สิ่งนี้หมายความว่า กระบวนการที่ให้พนักงานตั้งเป้าหมายและทำงานด้วยการเป็นผู้นำด้วยตนเอง
ทำให้พนักงานทำงานด้วยความคิดสร้างสรรค์และตัดสินใจได้อย่างอิสระ เงื่อนไขนี้ทำให้พนักงานที่จดจ่อกับงาน สามารถประสบความสำเร็จได้
โดยไม่ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง เวลาทำงาน หรือสถานที่ทำงาน แต่บริษัทเสนอสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ให้พนักงานสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองและ
ทำงานอย่างสร้างสรรค์ได้ ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้ของอะโทมี่สร้างความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากในด้านของพนักงานในองค์กร และนี่คือคำอธิบาย
ของนโยบายปฏิรูปใหม่ของอะโทมี่ที่ทำลายความคิดแบบเดิมๆ จึงทำให้อะโทมี่สามารถทำเป้าหมายให้เป็นจริงได้ในปัจจุบัน

ผู้เกี่ยวข้องจากฝ่ายบุคคลของอะโทมี่ได้กล่าวว่า “แก่นสำคัญของการดูแลทรัพยากรมนุษย์ (HR) ในอะโทมี่นั้น ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม
เราจะไม่มองพนักงานเป็นเครื่องมือ แต่จะถือให้พนักงานเป็นเป้าหมาย” และยังอธิบายอีกว่าสุดยอดผู้บริหารของอะโทมี่ ได้กล่าวไว้ว่า
“มนุษย์นั้นต้องการทำงานด้วยตัวของพวกเขาเอง”

ในอะโทมี่ไม่มีระบบตำแหน่งที่เป็นแนวคิดแบบเดิมๆ แต่ทุกคนสามารถกำหนดตำแหน่งของตัวเองได้ เรียกว่าเป็น ‘นโยบายการแจ้งตำแหน่ง’
นั่นเอง เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศให้ทุกคนสามารถโฟกัสกับเนื้องานมากกว่าตำแหน่ง ลำดับขั้นในองค์กรเหมือนกับธุรกิจอื่นๆ
ตำแหน่งงานหรือภาระหน้าที่นั้น แม้ที่สุดแล้วจะเป็นระบบเพื่อสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จได้มากที่สุด แต่อะโทมี่มีมุมมองที่แตกต่างออกไป
อะโทมี่บอกว่า หากเราทำงานวันนี้ด้วยความสามารถแบบรองประธานและจิตใจแบบประธานบริษัท เราก็มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นรองประธาน
หรือประธานบริษัทเช่นกัน และเหตุผลที่สิ่งนี้เป็นไปได้ เห็นได้จากวิธีการทำงานเฉพาะที่อะโทมี่ ถ้าพูดถึงวิธีการทำงานของอะโทมี่นั้น
คำว่า ‘Chutzpah’ จะปรากฏขึ้นมาก่อนเลย ซึ่งความหมายตามพจนานุกรมนั้นหมายถึงการถามและท้าทายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เกี่ยวข้องกับ
รูปแบบหรืออำนาจ ซึ่งบางครั้งอาจจะดูเหมือนหน้าไม่อายได้ แต่นี่เป็นจิตวิญญาณของการกล้าเผชิญหน้าและแสดงถึงการยืนหยัดของตัวเอง
อย่างชัดเจน

แนวคิด ‘Chutzpah’ ที่อะโทมี่ส่งเสริมอย่างมากนี้ เป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมองค์กรที่ขึ้นอยู่กับอำนาจและองค์กรลำดับขั้นแบบดั้งเดิม
ซึ่งพนักงานอะโทมี่ทุกคนมีความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกัน และจะรวมหรือแบ่งทีมตามแต่ละโปรเจคงานที่เกิดขึ้น จะเป็นรูปแบบองค์กรอะมีบา
ที่รวมแยกอย่างอิสระ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับเรื่อง ‘การสื่อสาร’ กันภายในองค์กรเป็นอย่างมาก
วัฒนธรรมความเท่าเทียมกันนี้ ได้ถูกแสดงออกมาให้เห็นผ่านเก้าอี้ทำงานที่พนักงานใช้ได้เป็นอย่างดี ในอะโทมี่นั้น ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งจนถึงพนักงาน
ทุกคน ไม่ว่าใครก็ใช้เก้าอี้แบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งเป็นสุดยอดเก้าอี้ทำงานจากบริษัท ‘เฮอร์แมน มิลเลอร์’ (Herman Miller)

พนักงานของอะโทมี่บอกว่า “บุคลากรของอะโทมี่นั้น ไม่ว่าใครก็นั่งเก้าอี้แบบเดียวกัน และสามารถแสดงความสามารถของตัวเองได้อย่างอิสระ
และเท่าเทียม” และยังบอกอีกว่า “ไม่ว่าจะทำงานอะไร หรือมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน สมาชิกในองค์กรทุกคนก็มีคุณสมบัติได้นั่งเก้าอี้
ที่ดีที่สุด”

ทำงานอย่างอิสระ ไม่ตัดสินจาก ‘เวลาทำงาน’ แต่ตัดสินจาก ‘คุณภาพ’
ความเชื่อถือในตัวพนักงาน - เติบโตเป็นธุรกิจที่มียอดขายโกลบอล 2.2 ล้านล้านวอน (66,000 ล้านบาท)


อะโทมี่ให้พนักงานกำหนดเวลาเข้าและออกงานด้วยตัวเอง โดยเน้นย้ำให้สร้างสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิตงานได้สูงที่สุด
ท่านประธานปาร์ค ฮันกิลกล่าวว่า “เราไม่ได้ซื้อเวลาของพนักงานมา และเงินเดือนนั้นไม่ใช่สิ่งตอบแทนให้กับการที่พนักงานมาทำงานให้เต็มเวลา
แต่เป็นค่าตอบแทนของไอเดียและการขบคิดของพนักงานต่างหาก” และยังย้ำอีกว่า “สุดท้ายแล้ว งานนั้นคือผลงานที่บริษัทซื้อจากพนักงาน
ที่สร้างจากความคิดของตัวเขาเอง” ในขณะที่การประเมินพนักงานแต่ละคนนั้นก็ตรวจสอบจากการรับฟีดแบคจากเพื่อนร่วมงานของพวกเขา

นโยบายที่นั่งอิสระก็โดดเด่นเช่นกัน ทุกฝ่ายนั้นใช้นโยบายที่นั่งอิสระ ไม่จำเป็นต้องกังวลกับสายตาของหัวหน้า ทุกคนสามารถทำงานในที่นั่ง
ที่ตัวเองต้องการได้ เพราะสถานที่ในการทำงานไม่ได้สำคัญ แต่ที่สำคัญ คือ การทำให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงที่สุด ด้วยสิ่งแวดล้อม
ที่สนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งในอะโทมี่ ปาร์ค สำนักงานใหญ่ของอะโทมี่นั้น
นอกจากห้องประชุมแล้ว พื้นที่ส่วนที่เหลือก็เปิดให้พนักงานสามารถใช้ได้อย่างอิสระอีกด้วย

วัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนเท่าเทียมและให้อิสระนี้ ส่งผลถึงประสิทธิภาพในการทำงานและความสำเร็จของงานที่โดดเด่น ซึ่งผลลัพธ์นั้นทำให้
ในทุกๆ ปีอะโทมี่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 13 ปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ถึงแม้ในปีที่แล้ว จะต้องเจอกับสถานการณ์โคโรน่า 19 อะโทมี่ก็ได้สร้าง
ระบบที่ผสมผสานระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เกิดมูลค่ายอดขายในประเทศสูงถึง 1 ล้านล้านวอน (30,000 ล้านบาท)
และยอดขายต่างประเทศ สูงถึง 1.2 ล้านล้านวอน (36,000 ล้านบาท) รวมยอดขายโกลบอลทั้งหมด 2.2 ล้านล้านวอน (66,000 ล้านบาท)
ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้อะโทมี่ได้ขึ้นไปยังตำแหน่งที่สามารถกระทบไหล่กับธุรกิจขายตรงระดับโกลบอล อย่างแอมเวย์ นูสกิน เฮอร์เบิล ไลฟ์
ได้แล้วนั่นเอง

ปัจจุบัน อะโทมี่ได้ไปขยายสาขาไปยังต่างประเทศทั่วโลกทั้งหมด 22 ประเทศ ในครึ่งแรกของปีนี้ อะโทมี่มีกำหนดการจะเปิดตลาดใหม่ 3 แห่ง
ได้แก่ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลกอย่างบราซิล (Brazil), อุซเบกิสถาน (Uzbekistan) และมองโกลเลีย (Mongolia) แห่งเอเชียกลาง
นอกจากนี้ ในปีหน้าก็มีแผนจะเปิดสาขาที่แอฟริกาใต้ และสาขาอื่นๆ เพิ่มอีก 4 ประเทศด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าอะโทมี่จะมีสาขาใน 6 ทวีปทั่วโลก

ปีที่แล้ว อะโทมี่ได้สร้างผลงานการส่งออกมูลค่า 3.1997 ร้อยล้านดอลล่าร์ (9.6 พันล้านบาท) และได้รับรางวัลท็อปมูลค่าการส่งออก
300 ล้านดอลล่าร์ (9,000 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกในวงการธุรกิจขายตรง ซึ่งธุรกิจที่ได้รับรางวัลท็อปมูลค่าการส่งออกมากกว่า 300 ล้านดอลล่าร์นั้น
มีธุรกิจขนาดใหญ่ 9 แห่ง ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีก 13 แห่ง รวมทั้งหมดมีเพียง 22 ธุรกิจเท่านั้น ท่านประธานปาร์ค ฮันกิลได้เน้นย้ำว่า
“หากพนักงานบริษัทต้องเสียสละเพื่อบริษัท บริษัทนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน แต่หากพนักงานสามารถมีความสุขขึ้นได้เพราะบริษัทแล้ว บริษัทนั้นจะ
กลายเป็นบริษัทที่สามารถอยู่รอดไปได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน”

นำหน้าปรับภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรงให้ดีขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับพนักงาน
บริษัทเดียวในวงการขายตรงที่ได้รับสัญลักษณ์ CCM อีกครั้ง


อะโทมี่ไม่เพียงมอบสถานที่น่าทำงานให้กับสมาชิกในองค์กรเท่านั้น แต่ยังได้รับการประเมินว่า “เป็นธุรกิจที่ยึดมั่นในจิตวิญญาณ” คุณค่าที่
ท่านประธานปาร์คแสวงหานั้น สุดท้ายแล้ว ทำให้ “ความสำเร็จของลูกค้า” และ “การเติบโตของธุรกิจจากความสุขของพนักงาน” ทั้งสองสิ่งนี้
เป็นจริงได้ด้วยจิตวิญญาณที่ยึดมั่นในจิตวิญญาณของอะโทมี่ นอกจากความสุขของพนักงานแล้ว ก็ยังส่งความสุขนี้ให้กับเหล่าผู้บริโภคอีกด้วย

ซึ่งความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดที่สามารถพิสูจน์ได้ก็คือ ‘การได้รับการรับรองการบริหารจัดการที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Consumer Centered
Management; CCM)’ อีกครั้ง ซึ่งการได้รับสัญลักษณ์ CCM อีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า อะโทมี่เป็นธุรกิจเดียว
ในวงการธุรกิจขายตรงที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง 

“การรับรองด้านการบริหารจัดการที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง” นี้  เป็นระบบที่ประเมินและยอมรับว่าการบริหารของบริษัทเน้นไปที่ผู้บริโภค
คำนึงถึงผู้บริโภค พัฒนาธุรกิจและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการค้ายุติธรรมได้สร้างสัญลักษณ์นี้ขึ้นมา
เพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์ของกลุ่มผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นให้ธุรกิจเร่งจัดการแก้ไขปัญหา ความไม่พึงพอใจและความเสียหายของผู้บริโภค
อย่างกระตือรือร้น และทางคณะกรรมการฯ ก็ได้รับหน้าที่ในการให้การอบรมและประเมินเกี่ยวกับผู้บริโภคในปัจจุบัน

หากต้องการรับการการพิจารณาเพื่อให้ได้สัญลักษณ์ CCM นั้น จะต้องจบการอบรมเกี่ยวกับภาระหน้าที่เป็นเวลา 10 ชั่วโมงขึ้นไป และจะมี
การตรวจสอบหน้างานและการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ตามความเหมาะสมจึงจะได้รับการรับรอง หากธุรกิจกระทำการผิดต่อระเบียบ
ตามกฎหมายเกี่ยวกับผู้บริโภค เช่น กฎหมายการค้าแบบเยี่ยมบ้าน กฎหมายการแสดงโฆษณา กฎหมายการค้าผ่อนส่ง กฎหมายการค้า
ทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมถึงกฎหมายการค้าอย่างยุติธรรรม และการฝ่าฝืนการรักษาราคาขายต่อ นำไปสู่การถูกลงคำสั่ง ถูกปรับหรือ
ลงโทษ ซึ่งจะไม่สามารถเข้ารับการพิจารณานี้ได้

ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว 67 ธุรกิจรวมทั้งอะโทมี่ได้รับสัญลักษณ์ CCM ซ้ำอีกครั้ง และ 39 ธุรกิจได้รับสัญลักษณ์นี้ใหม่ ซึ่งการรับรองจะมี
อายุ 2 ปี ธุรกิจที่ได้รับการรับรองในวันที่ 1 มกราคม 2022 มีทั้งหมด 211 แห่งด้วยกัน

อะโทมี่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะได้รับการรับรองอย่างต่อเนื่อง 7 ครั้งซ้อนด้วยกัน กรณีที่สามารถทำเป้าหมายได้สำเร็จจะได้เข้าร่วมการประชุม
แห่งเกียรติคุณของ CCM ซึ่งอะโทมี่ได้ย้ำอีกว่า เหตุผลที่อะโทมี่มีอยู่ทุกวันนี้นั้น สุดท้ายแล้วก็เพื่อความสุขของผู้คนนั่นเอง ซึ่งกลุ่มคนนั้น
ก็รวมถึงลูกค้าและสมาชิกในองค์กรด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจจำนวนมากจะบริหารองค์กรโดยวางกำไรเป็นเป้าหมาย ซึ่งกิจกรรมทาง
ธุรกิจบริษัทนั้น จะโฟกัสและปรับให้เข้ากับการสร้างกำไรให้กับองค์กร ไม่ว่าจะการปฏิบัติต่อผู้บริโภค หรือการว่าจ้างพนักงานล้วนใช้หลักทาง
เศรษฐศาสตร์อย่างรอบคอบ แต่อะโทมี่มีมุมมองที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อะโทมี่ได้กลายเป็นแบบอย่างให้กับกลุ่มธุรกิจขายตรงอื่นๆ ด้วยนโยบายอันละเอียดอ่อนที่ยกให้พนักงานนั้นมาก่อน เหมือนเช่นกลุ่มพนักงาน
ของฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของอะโทมี่นั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ความอดทนสูง และเป็นที่รองรับอารมณ์จากการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์
เพื่อพนักงานในฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์นี้ อะโทมี่พยายามฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมการทำงานและให้สวัสดิการกับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลักๆ ก็จะมี
‘กองทุนการศึกษา Dream แห่งความสุข’ ให้กับบุตรของพนักงานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งจะสนับสนุนเงินจำนวน 1 ล้านวอน (30,000 บาท) ให้กับ
บุตรที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น, 2 ล้านวอน (60,000 บาท) ให้กับบุตรที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย, และ 5 ล้านวอน (150,000 บาท) ให้กับบุตรที่
เรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัยในทุกๆ ปี นอกจากนี้ ยังมีวันหยุดเพื่อดูแลบุตรที่สอบเข้า หรือลดเวลาในการทำงานให้น้อยลงเพื่อดูแลบุตรที่ต้องการ
การดูแลอย่างฉุกเฉิน ลดเวลาสำหรับผู้ที่บุตรกำลังเข้าเรียน เป็นต้น ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ในฝ่ายที่มีการย้ายงานสูงนี้
อะโทมี่กลับมีสถิติการย้ายงานของพนักงานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เป็นเปอร์เซ็นต์ในหลักหน่วยเท่านั้น

ท่านประธานปาร์คได้กล่าวไว้ว่า “หากรีบที่จะหาแต่กำไรที่อยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถรับประกันถึงอนาคตของธุรกิจได้” และยัง
เน้นย้ำอีกว่า “นอกจากลูกค้าแล้ว การที่เราทำให้พนักงานดำรงชีพอย่างมีความสุขได้ เป็นคุณค่าและความภูมิใจที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจเรา
และความสุขของคนในองค์กรนั้นมีค่ามากมายกว่าเงินทองใดๆ” วัฒนธรรมทั้งหมดนี้ในองค์กรของอะโทมี่กำลังแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานใหม่ของ
วัฒนธรรรมองค์กรที่สะอาดและโปร่งใส และสิ่งนี้ได้ถูกประเมินว่า มันจะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์เดิมๆ ของธุรกิจขายตรง
ให้ดีขึ้นได้

인터넷 익스플로러 사용자는 [도구]-[호환성보기] 를 클릭하여 호환성보기를 해제하여 주시기 바랍니다.

    เข้าสู่ระบบ

    GLOBAL GSMC